นายฟิลิป พอล อเล็กซานดร์ อาร์โต้ กรรมการผู้จัดการ บมจ. ปูนซีเมนต์นครหลวง (SCCC) ชี้แจงงบการเงินและงบการเงินรวมสาหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2555 และ 2554 พร้อมรายงานสรุปผลการดาเนินงานว่า บริษัทฯ มีรายได้จากการขายสุทธิเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.2 จาก 23,150 ล้านบาทเป็น 26,427 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2554 และมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.4 เป็น 3,636 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 15.81 บาทเทียบกับ 14.32 บาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน คณะกรรมการบริษัทฯจะนำเสนอต่อผู้ถือหุ้น เพื่ออนุมัติจ่ายเงินปันผลรวม 13 บาทต่อหุ้นในที่ประชุมสามัญประจำปีครั้งที่ 20 การเจริญเติบโตของตลาดปูนซีเมนต์ในประเทศในปี 2555 คาดการณ์ว่าเติบโตขึ้นประมาณร้อยละ12-13 เนื่องจากปัจจัยหลักจากโครงการก่อสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐาน การขยายตัวทางการค้า และการขยายตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งยอดขายปูนซีเมนต์ของบริษัทฯได้มีการเจริญเติบโตไปในทิศทาง เดียวกับตลาดเช่นกัน ยอดขายในส่วนตลาดการค้าชายแดนเพิ่มขึ้นสูงถึงร้อยละ 20 รวมถึงการเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงของยอดขายผลิตภัณฑ์อื่นๆของบริษัทฯได้ แก่ ปูนสำเร็จรูป ธุรกิจหินทราย คอนกรีตผสมเสร็จ และผลิตภัณฑ์ทดแทนไม้คอนวูด ส่วนค่าใช้จ่ายในการผลิตยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการปรับตัว สูงขึ้นของอัตราค่าไฟฟ้าต่อหน่วย ต้นทุนการจัดจาหน่ายและการปรับอัตราค่าแรงขั้นต่าที่มีผลกระทบกับผู้ รับเหมา แต่บริษัทฯ ก็ได้รับผลประโยชน์จากโครงการประหยัดพลังงานต่าง ๆ เช่นการผลิตไฟฟ้าจากลมร้อนทิ้ง และการใช้พลังงานทดแทน อย่างไรก็ตามราคาปูนซีเมนต์ไม่สามารถปรับตัวขึ้นได้เนื่องจากสภาพ การแข่งขันในตลาด ส่งผลให้อัตรากาไรสุทธิจากการดำเนินงานของบริษัทฯ ลดลงเหลือร้อยละ 16.7 จากร้อยละ 19.4 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีค่าใช้จ่ายจานวน 226 ล้านบาทที่เกิดจากการปิดบริษัทย่อยแห่งหนึ่งซึ่งส่งผลกระทบต่อกาไร สุทธิในงบการเงินของบริษัทฯ